ในโลกแห่งการแข่งขันของทีวีระดับพรีเมียม แนวคิดของทีวีที่ปลอมตัวเป็นงานศิลปะเมื่อไม่ได้ใช้งาน ถูกครอบงำโดยชื่อเดียวเป็นหลัก นั่นคือ Samsung The Frame ภูมิทัศน์นั้นกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ LG ได้ประกาศคู่แข่งโดยตรงอย่างเป็นทางการแล้ว ชื่อว่า LG Gallery TV ซึ่งจะเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในงาน Consumer Electronics Show (CES) ที่ลาสเวกัสในสัปดาห์หน้า การเคลื่อนไหวนี้ส่งสัญญาณถึงการเข้าสู่ตลาดทีวีไลฟ์สไตล์อย่างจริงจังของ LG โดยสัญญาว่าจะผสมผสานเทคโนโลยีจอแสดงผลระดับไฮเอนด์เข้ากับประสบการณ์ด้านสุนทรียภาพที่คัดสรรมาอย่างดี พร้อมบริการสมัครสมาชิกสำหรับงานศิลปะดิจิทัลของตัวเอง
ข้อมูลจำเพาะและปรัชญาการออกแบบของ LG Gallery TV
LG Gallery TV ได้รับการออกแบบตั้งแต่เริ่มต้นให้เป็นจุดเด่นทางสายตาที่ผสมผสานเข้ากับการตกแต่งภายในบ้าน มันจะวางจำหน่ายในสองขนาด ได้แก่ 55 นิ้ว และ 65 นิ้ว ทั้งคู่มีความละเอียด 4K และเทคโนโลยีแบ็คไลท์ MiniLED ของ LG เพื่อการควบคุมคอนทราสต์และความสว่างที่ดียิ่งขึ้น องค์ประกอบการออกแบบที่สำคัญคือความสามารถในการติดตั้งชิดผนังได้สนิท เลียนแบบรูปลักษณ์ของภาพวาดบนผ้าใบ เพื่อทำให้ภาพลวงตาสมบูรณ์ LG จะจัดกรอบจริงแบบแม่เหล็กมาให้ด้วย โดยเริ่มจากสีขาว และมีตัวเลือกสีไม้ให้เลือก ซึ่งเจ้าของสามารถติดเข้ากับขอบจอของทีวีได้ หัวใจสำคัญคือโปรเซสเซอร์ Alpha 7 AI ตัวใหม่ ซึ่งมีหน้าที่จัดการคุณภาพภาพและคุณสมบัติการแสดงผลงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของทีวี สำหรับเสียง ตัวเครื่องมีระบบ AI Sound Pro สร้างประสบการณ์เสียงรอบทิศทางเสมือน 9.1.2 แชนเนล
LG Gallery TV รายละเอียดสเปคหลัก
- จอแสดงผล: 4K MiniLED
- ขนาด: 55 นิ้ว, 65 นิ้ว
- โปรเซสเซอร์: Alpha 7 AI Processor
- เสียง: AI Sound Pro (Virtual 9.1.2ch)
- ดีไซน์: ติดผนังแบบเรียบเสมอผนัง, กรอบแม่เหล็ก (สีขาวมาตรฐาน, ไม้เป็นตัวเลือกเพิ่มเติม)
- ฟีเจอร์หลัก: โหมดแกลเลอรีพร้อมหน้าจอป้องกันแสงสะท้อนและการปรับแสงแวดล้อม
- บริการ: สมาชิก LG Gallery+ (ผลงานศิลปะกว่า 4,500 ชิ้น, อัปเดตทุกเดือน)
- เปิดตัว: CES 2026 (6-9 ม.ค.)
บริการสมัครสมาชิก Gallery+ และคุณสมบัติที่เน้นงานศิลปะ
ใจกลางข้อเสนอของ Gallery TV คือบริการ LG Gallery+ ซึ่งเป็นคำตอบโดยตรงต่อ Samsung Art Store ห้องสมุดแบบสมัครสมาชิกนี้จะให้สิทธิ์เข้าถึงผลงานศิลปะกว่า 4,500 ชิ้น ซึ่ง LG ระบุว่าจะมีการอัปเดตทุกเดือน เนื้อหามีตั้งแต่ศิลปะวิจิตรคลาสสิก ฉากจากภาพยนตร์ ไปจนถึงภาพจากเกมและแอนิเมชัน ผู้ใช้ยังสามารถแสดงรูปภาพส่วนตัวของตัวเองหรือแม้แต่สร้างงานศิลปะโดยใช้เครื่องมือ AI ได้ โหมดเฉพาะทาง "Gallery Mode" ซึ่งพัฒนาขึ้นจากการปรึกษากับภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ จะปรับสี ความสว่าง และพื้นผิวให้เหมาะสมเพื่อเลียนแบบรูปลักษณ์ของงานศิลปะทางกายภาพต้นฉบับได้ดียิ่งขึ้น โหมดนี้ทำงานร่วมกับหน้าจอป้องกันแสงสะท้อนเฉพาะทาง และเซ็นเซอร์วัดแสงแวดล้อมที่ปรับภาพโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาความชัดเจนเมื่อแสงในห้องเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน
บริบทตลาดและภูมิทัศน์การแข่งขัน
การประกาศของ LG ทำให้บริษัทอยู่ในตลาดเฉพาะที่กำลังเติบโตซึ่ง Samsung เป็นผู้บุกเบิกอย่างชัดเจน ผู้ผลิตรายอื่นๆ เช่น Hisense และ TCL ก็ได้เปิดตัวทีวีสไตล์ "ผ้าใบ" ของตัวเองเช่นกัน แต่การเข้าสู่ตลาดของ LG นั้นน่าสนใจในฐานะความท้าทายโดยตรงครั้งสำคัญครั้งแรกจากหนึ่งในยักษ์ใหญ่สองอันดับแรกของอุตสาหกรรมจากเกาหลีใต้ สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่ไม่ใช่การก้าวเข้าสู่ตลาดทีวีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะครั้งแรกของ LG บริษัทเคยมีซีรีส์ "Gallery Series" ของทีวี OLED และรุ่นปี 2020 ที่ชื่อ GX Gallery TV มาก่อน อย่างไรก็ตาม ทีวี Gallery รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี MiniLED นี้ แสดงถึงความพยายามที่มุ่งเน้นและครอบคลุมมากขึ้นเพื่อดึงดูดผู้บริโภคไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบไม่แพ้ประสิทธิภาพ ความสำเร็จของมันน่าจะขึ้นอยู่กับคุณค่าที่รับรู้ของไลบรารี Gallery+ และคุณภาพของประสบการณ์การแสดงผลงานศิลปะเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ยึดฐานะมาแล้ว
บริบทการแข่งขัน: ทีวีสไตล์ "Canvas"
| ยี่ห้อ | รุ่น | จุดเด่นที่แตกต่าง |
|---|---|---|
| Samsung | The Frame | ผู้บุกเบิกตลาด มีบริการสมัครสมาชิก Art Store ที่ครอบคลุม |
| Hisense | Canvas TV | มาพร้อมกรอบทางกายภาพเช่นกัน มุ่งเน้นที่การออกแบบ |
| TCL | Various Models | มักเสนอโหมดศิลปะในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า |
| LG | Gallery TV (รุ่นใหม่) | จอแสดงผล MiniLED ใช้โปรเซสเซอร์ Alpha 7 AI และบริการ Gallery+ |
ความพร้อมจำหน่าย ราคา และสิ่งที่ยังไม่ทราบ
LG Gallery TV จะถูกเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบในงาน CES 2026 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ถึง 9 มกราคม ในสหรัฐอเมริกา หลังจากงานแสดงสินค้า คาดว่าจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางจำหน่ายในระดับนานาชาติและความพร้อมจำหน่ายในท้องถิ่นในเดือนต่อๆ ไป ณ ตอนนี้ LG ยังคงเก็บข้อมูลด้านราคาทั้งหมดไว้เป็นความลับอย่างดี ค่าทีวีเองและค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือรายปีสำหรับบริการสมัครสมาชิก Gallery+ แบบเต็มยังไม่มีการระบุ บทความหนึ่งแนะนำว่าค่าสมัครสมาชิกอาจอยู่ที่ประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อเดือน พร้อมระดับฟรีที่มีข้อจำกัดมากกว่า แต่สิ่งนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก LG ความสามารถในการสตรีมเพลย์ลิสต์เพลงส่วนตัวผ่าน Bluetooth ถูกจำกัดไว้หลังระบบชำระเงินหรือไม่ก็ยังไม่ชัดเจน รายละเอียดสำคัญเหล่านี้จะเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนาสำหรับผู้บริโภคที่กำลังประเมินตัวเลือกใหม่ที่เน้นสุนทรียภาพนี้ในตลาดสมาร์ททีวี
