Samsung Galaxy S25 Ultra ได้กลายเป็นผู้นำที่ไม่มีใครเทียบได้ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม โดยขายได้ 8.4 ล้านเครื่องภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2025 แม้จะถูกติดป้ายว่าเป็นอุปกรณ์ที่น่าเบื่อที่สุดในบรรดาเรือธงระดับ Ultra ของปีนี้ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Xiaomi 15 Ultra, Vivo X200 Ultra และ Oppo Find X8 Ultra มีสเปกฮาร์ดแวร์ที่เหนือกว่า แต่ผลิตภัณฑ์ของ Samsung กลับขายได้มากกว่าพวกเขาถึงแปดเท่าหรือมากกว่า
การเปรียบเทียบยอดขาย (สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2025)
อุปกรณ์ | จำนวนที่ขายได้ (โดยประมาณ) |
---|---|
Samsung Galaxy S25 Ultra | 8.4 ล้านเครื่อง |
Xiaomi 15 Ultra | 500,000+ เครื่อง |
Vivo X200 Ultra | 219,000 เครื่อง |
Oppo Find X8 Ultra | 210,000 เครื่อง |
ความขัดแย้งของความสำเร็จผ่านความเรียบง่าย
การครองตลาดของ Galaxy S25 Ultra ดูขัดแย้งกับสามัญสำนึกเมื่อเปรียบเทียบสเปกกับคู่แข่ง อุปกรณ์นี้มีแบตเตอรี่ขนาดเพียง 5,000 mAh ในขณะที่คู่แข่งได้นำมาตรฐานใหม่ของแบตเตอรี่ Silicon-Carbon ขนาด 6,000 mAh มาใช้ ระบบกล้องถ่ายรูปแม้จะยอดเยี่ยม แต่ก็ยังขาดเซ็นเซอร์หลักขนาด 1 นิ้วที่น่าประทับใจเหมือนทางเลือกจาก Xiaomi, Vivo และ Oppo นอกจากนี้เรือธงของ Samsung ยังมีราคาสูงกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ โดยมีเพียง Xiaomi 15 Ultra เท่านั้นที่มีการวางตำแหน่งในระดับพรีเมียมเทียบเท่า
การเปรียบเทียบแบตเตอรี่
- Galaxy S25 Ultra: แบตเตอรี่แบบดั้งเดิม 5,000 mAh
- คู่แข่ง: แบตเตอรี่ Silicon-Carbon 6,000 mAh (มาตรฐานอุตสาหกรรม)
- การสนับสนุนซอฟต์แวร์: Samsung ให้การสนับสนุน 7 ปี เทียบกับช่วงเวลาที่สั้นกว่าจากคู่แข่ง
การเข้าถึงทั่วโลกเหนือกว่านวัตกรรมฮาร์ดแวร์
ตัวเลขยอดขายเผยให้เห็นความจริงที่โหดร้ายของตลาดสมาร์ทโฟน ในขณะที่ Xiaomi 15 Ultra ขายได้เพียงกว่า 500,000 เครื่อง Vivo X200 Ultra ขายได้ประมาณ 219,000 เครื่อง และ Oppo Find X8 Ultra ตามหลังด้วย 210,000 เครื่อง ความได้เปรียบแปดเท่าของ Samsung มาจากการมีจำหน่ายทั่วโลกและเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่มั่นคงเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งจีนที่ยังคงจำกัดอยู่ในตลาดภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่หรือขาดการปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับตลาดโลกอย่างเหมาะสม Galaxy S25 Ultra เปิดตัวพร้อมกันในตลาดนานาชาติที่สำคัญทั้งหมด
ความยั่งยืนของซอฟต์แวร์เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน
ความมุ่งมั่นของ Samsung ในการให้การสนับสนุนซอฟต์แวร์เป็นเวลาเจ็ดปีได้กลายเป็นปัจจัยตัดสินใจสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการลงทุนระยะยาวในอุปกรณ์ระดับพรีเมียม ช่วงเวลาการสนับสนุนที่ยาวนานนี้ ควบคู่กับความน่าเชื่อถือของ One UI 7 ทำให้ผู้ใช้มั่นใจในการตัดสินใจซื้อ อินเทอร์เฟซได้พัฒนาจนกลายเป็นสิ่งที่เหมือนกับ Android สำหรับผู้ใช้หลายคน ทำให้ Samsung กลายเป็นผู้นำที่แท้จริงในระบบนิเวศ Android เมื่อตลาดเติบโตและรวมตัวกัน
เคล็ดลับการปรับแต่งเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน
แม้จะมีความสามารถที่ใช้งานได้ทันทีหลังแกะกล่อง แต่ Galaxy S25 Ultra ยังได้รับประโยชน์อย่างมากจากการปรับแต่งของผู้ใช้ การปรับเปลี่ยนที่แนะนำสำคัญ ได้แก่ การเปลี่ยนไปใช้การนำทางด้วยท่าทาง เพื่อการควบคุมที่ใช้งานง่ายขึ้น การเพิ่มความละเอียดหน้าจอ QHD+ ให้สูงสุดเพื่อใช้ประโยชน์จากจอแสดงผล Gorilla Armor รุ่นที่สองอย่างเต็มที่ และการตั้งค่าปุ่มด้านข้างให้เข้าถึงเมนูพาวเวอร์แทนที่จะเป็นผู้ช่วยดิจิทัล ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวโดยการปรับการตั้งค่าการแจ้งเตือนบนหน้าจอล็อก และติดตั้งแอป Good Lock ของ Samsung เพื่อตัวเลือกการปรับแต่งเพิ่มเติม ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการจัดการขนาดใหญ่ของอุปกรณ์ผ่านฟีเจอร์การใช้งานด้วยมือเดียว
คำแนะนำการตั้งค่า Galaxy S25 Ultra ที่สำคัญ
- การนำทาง: เปลี่ยนเป็นการนำทางด้วยท่าทาง (Settings > Display > Navigation bar > Swipe gestures)
- หน้าจอ: ตั้งค่าความละเอียดหน้าจอสูงสุด (Settings > Display > Screen resolution)
- ปุ่มด้านข้าง: กำหนดค่าสำหรับเมนูเปิด-ปิดเครื่อง (Settings > Advanced features > Side button > Long Press > Power off menu)
- การแจ้งเตือน: ปิดการแสดงป๊อปอัพ (Notifications > Notification pop-up style > Apps to show as brief > Toggle off All apps)
- Always-On Display: เปิดใช้งานการแสดงผลต่อเนื่อง (Settings > Lock screen and AOD > Always-on Display > Always)
พลังแบรนด์เหนือกว่าข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
ความสำเร็จของ Galaxy S25 Ultra แสดงให้เห็นว่าการรับรู้แบรนด์และการบูรณาการระบบนิเวศมักจะมีน้ำหนักมากกว่าข้อมูลจำเพาะฮาร์ดแวร์ดิบในการตัดสินใจของผู้บริโภค ตำแหน่งของ Samsung ในฐานะแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ทรงพลังเป็นอันดับสองของโลกรองจาก Apple ควบคู่กับชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือและการสนับสนุนทั่วโลกอย่างครอบคลุม สร้างข้อเสนอคุณค่าที่น่าสนใจซึ่งเหนือกว่าการเปรียบเทียบฟีเจอร์แต่ละอย่าง ความเป็นจริงของตลาดนี้เสริมกลยุทธ์ของ Samsung ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงและความสอดคล้องของระบบนิเวศมากกว่าการไล่ตามข้อมูลจำเพาะฮาร์ดแวร์ที่ล้ำสมัยเพียงอย่างเดียว