Bose QuietComfort Ultra Headphones Gen 2 เปิดตัวพร้อมแบตเตอรี่ใช้งาน 30 ชั่วโมงและระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้น

ทีมบรรณาธิการ BigGo
Bose QuietComfort Ultra Headphones Gen 2 เปิดตัวพร้อมแบตเตอรี่ใช้งาน 30 ชั่วโมงและระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้น

Bose ได้เปิดตัวหูฟัง QuietComfort Ultra รุ่นที่สองของซีรีส์เรือธงของบริษัท โดยแก้ไขข้อจำกัดสำคัญของรุ่นเดิมในขณะที่ยังคงรักษาดีไซน์พรีเมียมและระบบตัดเสียงรบกวนระดับอุตสาหกรรมที่ทำให้รุ่นก่อนหน้านี้โดดเด่น หูฟังรุ่นใหม่พร้อมให้สั่งจองล่วงหน้าในราคา 449 ดอลลาร์สหรัฐ และจะจัดส่งในวันที่ 2 ตุลาคม 2025

ข้อมูลจำเพาะหลัก

  • ราคา: USD $449
  • วันที่วางจำหน่าย: 2 ตุลาคม 2025
  • ไมโครโฟน: ไมโครโฟน 10 ตัวสำหรับ ANC
  • Audio Codec: USB-C แบบสายได้สูงสุด 16-bit, 48kHz
  • สี: ดำ, White Smoke, Midnight Violet, Driftwood Sand
  • ฟีเจอร์พิเศษ: Cinema Mode, ActiveSense ANC, Immersive Audio (23 ชั่วโมงเมื่อเปิดฟีเจอร์)

การปรับปรุงอายุแบตเตอรี่อย่างมีนัยสำคัญ

การอัปเกรดที่โดดเด่นที่สุดคือประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ โดย Bose ได้ขยายเวลาการเล่นจาก 24 ชั่วโมงเป็น 30 ชั่วโมงเมื่อเปิดใช้งานระบบตัดเสียงรบกวน การปรับปรุงนี้ทำให้หูฟังสามารถแข่งขันกับรุ่น WH-1000XM6 ล่าสุดของ Sony และเหนือกว่า AirPods Max ของ Apple สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดพลังงาน Gen 2 นำเสนอความสามารถในการปิดระบบตัดเสียงรบกวนได้อย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรกในซีรีส์ Ultra ซึ่งช่วยขยายอายุแบตเตอรี่ไปถึง 45 ชั่วโมงอย่างน่าประทับใจ

การเปรียบเทียบอายุแบตเตอรี่

รุ่น เปิด ANC ปิด ANC
Bose QuietComfort Ultra Gen 2 30 ชั่วโมง 45 ชั่วโมง
Bose QuietComfort Ultra Gen 1 24 ชั่วโมง N/A
Sony WH-1000XM6 30 ชั่วโมง ~40 ชั่วโมง
Apple AirPods Max ~20 ชั่วโมง N/A

เทคโนโลยีระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้น

Bose ได้ปรับปรุงระบบ ActiveSense adaptive noise cancellation ด้วยไมโครโฟน 10 ตัวและอัลกอริทึมที่อัปเดตใหม่ บริษัทอ้างว่าการกำหนดค่านี้ให้การปรับระบบตัดเสียงรบกวนที่นุ่มนวลและรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งลดความรู้สึกของแรงดันที่สะสมซึ่งผู้ใช้บางคนประสบกับรุ่นก่อนหน้า ระบบสามารถตรวจจับและตัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้นในขณะที่รักษาความสบายในระหว่างการฟังเป็นเวลานาน

ฟีเจอร์เสียงและการเชื่อมต่อใหม่

รุ่นที่สองนำเสนอ Cinema Mode ซึ่งเป็นการปรับแต่งเสียงเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสบการณ์การดูภาพยนตร์และรายการทีวี โดยเพิ่มความคมชัดของบทสนทนาและขยาย soundstage นอกจากนี้ Bose ได้ใช้การเชื่อมต่อ USB-C สำหรับการเล่นเสียงแบบ hi-res lossless สูงสุดถึง 16-bit, 48kHz ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเสียงแบบมีสายในขณะที่ชาร์จหูฟังไปพร้อมกัน

หูฟังยังมีเทคโนโลยีการปรับเสียงแบบส่วนบุคคลที่ปรับเอาต์พุตเสียงตามรูปร่างของหูชั้นในของผู้ใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้คุณภาพเสียงที่เหมาะสมสำหรับผู้ฟังแต่ละคน

การจัดการพลังงานอัจฉริยะ

ตาม Apple ในแนวทางของ AirPods Max, Bose ได้นำเสนอการจัดการพลังงานอัตโนมัติผ่านการตรวจจับการสวมใส หูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่จับคู่ไว้โดยอัตโนมัติเมื่อสวมใส และเข้าสู่โหมดสแตนด์บายประหยัดพลังงานเมื่อถอดออกและวางราบ ต่างจากการใช้งานของ Apple, Bose ยังคงปุ่มเปิด-ปิดแบบกายภาพไว้ ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสถานะพลังงานของอุปกรณ์ด้วยตนเอง

ดีไซน์และความพร้อมใช้งาน

QuietComfort Ultra Gen 2 ยังคงรักษาภาษาดีไซน์ที่จดจำได้ของรุ่นก่อนหน้า โดยมีโครงโลหะและแผ่นรองโฟมนุ่มเพื่อความสบายในระหว่างการใช้งานเป็นเวลานาน หูฟังมีให้เลือก 4 สี คือ Black, White Smoke, Midnight Violet และ Driftwood Sand ให้ผู้ใช้มีตัวเลือกด้านความสวยงามที่เข้ากับความชอบของตน

การเปิดตัวครั้งนี้วาง Bose ให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับผลิตภัณฑ์เรือธงล่าสุดของ Sony ในขณะที่ยังคงรักษาชื่อเสียงในด้านเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่เหนือกว่า การรวมกันของอายุแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น ฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพที่ปรับปรุงแล้ว ตอบโจทย์การวิจารณ์หลักของรุ่นแรกในขณะที่สร้างต่อยอดจากจุดแข็งของมัน