Suunto ได้เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะสำหรับการผจญภัยรุ่นเรือธงอย่าง Vertical 2 อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเป็นการอัปเกรดที่สำคัญจากรุ่นเดิม ออกแบบมาสำหรับการเดินทางสำรวจสุดหฤโหดและการใช้งานกลางแจ้งในชีวิตประจำวัน โดยรุ่นใหม่นี้ได้นำเสนอการปรับปรุงด้านฮาร์ดแวร์และคุณสมบัติซอฟต์แวร์อันชาญฉลาดมากมาย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อมอบความสามารถในการนำทาง ความทนทาน และการติดตามประสิทธิภาพที่เหนือชั้นให้กับนักผจญภัยตัวยง การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการวิวัฒนาการทางกลยุทธ์ของ Suunto ที่ผสมผสานเทคโนโลยีจอแสดงผลที่มองเห็นได้ชัดเจนเข้ากับประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งและใช้งานได้ยาวนาน อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
จอแสดงผลที่สว่างและคมชัดยิ่งขึ้นสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง
การอัปเกรดที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนที่สุดบน Suunto Vertical 2 คือการเปลี่ยนจากจอแสดงผลแบบ Memory-in-Pixel (MIP) ไปเป็นหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.5 นิ้วที่สดใส จอแสดงผลใหม่นี้มีความละเอียด 466x466 พิกเซล และมีความสว่างสูงสุดที่น่าประทับใจที่ 2000 นิต ซึ่งช่วยให้สามารถอ่านแผนที่และข้อมูลได้ง่ายแม้อยู่ใต้แสงอาทิตย์โดยตรง แม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ไม่มีคุณสมบัติการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ที่พบในรุ่นก่อนหน้าบางรุ่น แต่การแลกเปลี่ยนดังกล่าวก็ส่งผลให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ทางภาพที่คมชัดและละเอียดยิ่งขึ้นมาก โดยจอแสดงผลได้รับการปกป้องด้วยกระจกแซปไฟร์ที่ทนทาน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับอุปกรณ์ที่สร้างมาเพื่อทนต่อสภาพการใช้งานที่หนักหน่วง
ข้อมูลจำเพาะหลัก
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 1.5 นิ้ว ความละเอียด 466x466 ความสяงสูงสุด 2000 nits
- อายุแบตเตอรี่: สูงสุด 65 ชั่วโมง (GPS) สูงสุด 20 วัน (โหมดสมาร์ทวอทช์)
- ความทนทาน: กันน้ำลึก 100 เมตร กระจก Sapphire
- ฟีเจอร์หลัก: ไฟฉาย LED ในตัว แผนที่ออฟไลน์ฟรี โหมดกีฬามากกว่า 115 ชนิด
- วัสดุ: สแตนเลสสตีล ไทเทเนียม
การติดตามที่แม่นยำขึ้นและไฟฉายที่ช่วยชีวิตได้
นอกจากหน้าจอแล้ว Suunto ยังได้ปรับปรุงเซนเซอร์หลักของนาฬิกาให้ดีขึ้น โดยเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออปติคัลที่ออกแบบใหม่สัญญาว่าจะให้ผลการอ่านที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงกิจกรรมที่มีความเข้มข้นสูงหรือในสภาพอากาศหนาวเย็น ซึ่งการวัดค่าจากข้อมือมักจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไฟ LED ที่ผนวกเข้ามาในตัว ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่อาจช่วยชีวิตได้ โดยฟีเจอร์นี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะมันให้ความสว่างที่ปรับได้ มีโหมดแสงสีแดงเฉพาะเพื่อรักษาการมองเห็นในเวลากลางคืน และสามารถตั้งค่าให้ทำงานในโหมด SOS หรือส่งสัญญาณแจ้งเตือนได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มเครื่องมือด้านความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับเหตุฉุกเฉินในสถานที่ห่างไกล
แบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยมและการนำทางอันชาญฉลาด
แม้จะมีจอแสดงผล AMOLED ที่กินพลังงาน Suunto ก็ยังสามารถรักษาประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนักผจญภัยต่างพึ่งพาไว้ได้ โดย Vertical 2 นี้ได้รับการจัดอันดับให้สามารถติดตามตำแหน่งผ่าน GPS อย่างต่อเนื่องได้นานถึง 65 ชั่วโมง ในโหมด Dual-band ที่ใช้พลังงานสูง และสามารถใช้งานได้นานถึง 20 วัน ในโหมดสมาร์ตวอทช์โดยปิดฟังก์ชันแสดงผลตลอดเวลา (always-on display) ด้านซอฟต์แวร์ นาฬิกามาพร้อมกับแผนที่แบบออฟไลน์ฟรีที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า ซึ่งแสดงเส้นคอนทัวร์และลักษณะภูมิประเทศได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ ส่วนฟีเจอร์อัจฉริยะใหม่ๆ เช่น Climb Guidance จะให้ข้อมูลโปรไฟล์ความสูงและข้อมูลความชันแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ Quick Start Navigation ช่วยให้สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่
ราคาและความพร้อมจำหน่าย
- สแตนเลสสตีล: 599 เหรียญสหรัฐ
- ไทเทเนียม: 699 เหรียญสหรัฐ
- วางจำหน่ายทั่วโลก: ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2025
สร้างมาเพื่อการใช้งานสุดหฤโหดและราคาสมคำมั่น
Suunto Vertical 2 ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ตรงตามมาตรฐานความทนทานระดับ Military-grade โดยมีความทนทานต่อน้ำที่ระดับ 100 เมตร และมีปุ่มกดทางกายภาพสามปุ่มที่ด้านข้าง ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายแม้สวมถุงมือ นาฬิกาจะวางจำหน่ายในสองระดับวัสดุ ได้แก่ รุ่นสแตนเลสสตีล และรุ่นไทเทเนียมระดับพรีเมียม โดยนาฬิกามีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 15 ตุลาคม 2025 สำหรับรุ่นสแตนเลสสตีลจะเริ่มต้นที่ 599 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่รุ่นไทเทเนียมจะตั้งราคาที่ 699 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการผสมผสานระหว่างจอแสดงผลระดับไฮเอนด์ ประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และคุณสมบัติที่มุ่งเน้นการผจญภัยที่แข็งแกร่ง Suunto Vertical 2 จึงวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้แข่งขันระดับแนวหน้าสำหรับนักสำรวจตัวยง