Pentagon กำลังเผชิญกับการเผชิญหน้าครั้งใหญ่กับองค์กรข่าวชั้นนำเกี่ยวกับกฎการเข้าถึงสื่อใหม่ที่นักวิจารณ์ระบุว่าจะเปลี่ยนนักข่าวให้เป็นเครื่องมือของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ ณ วันที่ UTC+0 2025-10-15T07:32:23Z สำนักข่าวสำคัญรวมถึง The New York Times, Associated Press, Reuters และแม้แต่เครือข่ายอนุรักษนิยมอย่าง Newsmax ได้ปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงใหม่ ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญเสียการเข้าถึงกระทรวงกลาโหม
แกนกลางความขัดแย้งเรื่องเสรีภาพสื่อ
หัวใจของข้อพิพาทคือข้อกำหนดที่ให้ผู้สื่อข่าวยืนยันว่าพวกเขาเข้าใจนโยบายใหม่ของ Pentagon ซึ่งอาจเพิกถอนการเข้าถึงของพวกเขา จากการรายงานข้อมูลใดๆ ทั้งที่ถูกจัดระดับความลับและไม่ถูกจัดระดับความลับ ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจากเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม นโยบายระบุว่าข้อมูลของกระทรวงกลาโหมต้องได้รับการอนุมัติให้เผยแพร่ต่อสาธารณะโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอนุญาตที่เหมาะสมก่อนที่จะปล่อยออกไป แม้จะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกจัดระดับความลับก็ตาม องค์กรข่าวโต้แย้งว่านี่เท่ากับการยอมรับว่าการรวบรวมข่าวตามปกติอาจถูกปฏิบัติเหมือนเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติ
สมาคมสื่อมวลชน Pentagon ประณามข้อกำหนดนี้ โดยระบุว่าไม่มีความจำเป็นหรือความชอบธรรมใดๆ ที่จะบังคับให้ผู้สื่อข่าวยืนยันความเข้าใจในนโยบายที่คลุมเครือและน่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการรายงานข่าวจากสถานที่ตั้งของ Pentagon ผู้สื่อข่าวเน้นย้ำว่าพวกเขาดำเนินงานด้วยบัตรผ่านด้านความปลอดภัยมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เข้าถึงพื้นที่ลับ ทำให้ข้อจำกัดใหม่ดูเหมือนถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมการส่งข้อความมากกว่าที่จะปกป้องความลับ
แน่นอนว่า Pentagon มีสิทธิ์กำหนดนโยบายของตนเอง ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ไม่มีความจำเป็นหรือความชอบธรรมใดๆ สำหรับการบังคับให้ผู้สื่อข่าวยืนยันความเข้าใจในนโยบายที่คลุมเครือและน่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการรายงานข่าวจากสถานที่ตั้งของ Pentagon
การเปลี่ยนแปลงนโยบายสำคัญ: กฎใหม่ระบุว่าข้อมูลของกระทรวงกลาโหม "ต้องได้รับการอนุมัติให้เผยแพร่ต่อสาธารณะจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่เหมาะสมก่อนที่จะเผยแพร่ แม้ว่าจะไม่ใช่ข้อมูลลับก็ตาม"
การรวมตัวประท้วงในพันธมิตรที่ไม่คาดคิด
ในการแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวอย่างน่าประหลาดใจ สำนักข่าวอนุรักษนิยมตามประเพณีอย่าง Newsmax ได้เข้าร่วมกับสำนักพิมพ์กระแสหลักในการปฏิเสธเงื่อนไขของ Pentagon Newsmax ซึ่งผู้สื่อข่าวโดยทั่วไปสนับสนุนรัฐบาล Trump ระบุว่า พวกเราเชื่อว่าข้อกำหนดเหล่านี้ไม่จำเป็นและเป็นภาระหนักเกินไป พันธมิตรข้ามอุดมการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าปัญหาดังกล่าวอยู่เหนือการแบ่งแยกทางการเมืองตามปกติและเกี่ยวข้องกับหลักการพื้นฐานของเสรีภาพสื่อ
สำนักข่าวสำคัญเพียงแห่งเดียวที่รายงานว่ายินดีลงนามในข้อตกลงคือ One America News Network (OANN) ซึ่งวางตำแหน่งตัวเองเป็นอนุรักษนิยมมากกว่า Fox News การแบ่งแยกที่ชัดเจนนี้ทำให้เกิดคำถามว่าการบริหารงานกำลังสร้างระบบสื่อสองระดับหรือไม่ โดยให้ความชอบพอกับสำนักข่าวที่ยอมตาม ในขณะที่ทำให้การสื่อข่าวอิสระถูกกีดกัน
องค์กรสื่อที่ปฏิเสธการลงนามในข้อตกลงกับ Pentagon:
- The New York Times
- Associated Press
- Reuters
- The Washington Post
- The Atlantic
- Newsmax
ชุมชนถกประเด็นผลกระทบในวงกว้าง
การเผชิญหน้านี้ได้จุดประกายการอภิปรายอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสื่อ โดยผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมากมองว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการกัดกร่อนของสถาบันที่กว้างขึ้น ผู้สังเกตการณ์บางคนตั้งข้อสังเกตว่าท่าทีของการบริหารงานที่เผชิญหน้ากับสื่อดั้งเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่บางคนตั้งคำถามว่าสิ่งนี้อาจให้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามในท้ายที่สุด โดยบังคับให้นักข่าวพัฒนาวิธีการสืบสวนสอบสวนที่ดีขึ้น นอกเหนือจากช่องทางทางการ
ผู้แสดงความคิดเห็นหลายคนชี้ให้เห็นว่างานสื่อสารมวลชนที่สำคัญที่สุดมักมาจากแหล่งข่าวที่พบปะกับผู้สื่อข่าวนอกเหนือจากอาคารรัฐบาลอยู่แล้ว โดยอ้างตัวอย่างทางประวัติศาสตร์เช่น Deep Throat ระหว่างคดีวอเตอร์เกต มุมมองนี้ชี้ให้เห็นว่าหาก Pentagon ประสบความสำเร็จในการปิดกั้นการเข้าถึงทางการ มันอาจจะส่งเสริมให้มีการรายงานข่าวสืบสวนสอบสวนที่ก้าวร้าวมากขึ้นจากนอกระบบโดยไม่ตั้งใจ
ผลกระทบทางเศรษฐกิจก็ได้รับความสนใจเช่นกัน โดยผู้แสดงความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า: ในแง่เศรษฐกิจแล้ว สิ่งนี้สมเหตุสมผล บริษัทเหล่านั้นที่ลงนาม ถูก relegating ให้ทำหน้าที่เพียงแค่ตีพิมพ์ข่าวประชาสัมพันธ์ซ้ำ ดังนั้นจึงมีคุณค่าน้อยมากในการจ้างใครสักคนมาเพื่อทำเพียงแค่นั้น นี้เน้นย้ำถึงความเป็นจริงทางธุรกิจที่ว่าการสื่อสารมวลชนที่ถูกจำกัดให้เพียงทำซ้ำข้อความทางการ มีมูลค่าตลาดที่จำกัด
คำถามทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญรออยู่ข้างหน้า
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมีความเห็นแตกต่างกันว่ากฎใหม่นี้จะรอดพ้นจากการท้าทายในศาลหรือไม่ บางคนโต้แย้งว่ารัฐบาลมีดุลยพินิจกว้างขวางในการเข้าถึงสถานที่ของตน ในขณะที่บางคนเห็นว่ามีการละเมิดแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งแรก โดยเฉพาะหากกฎถูกนำไปใช้อย่างเลือกปฏิบัติ ข้อกำหนดที่ให้ผู้สื่อข่าวยืนยันความเข้าใจในนโยบาย แทนที่จะเพียงแค่ปฏิบัติตามมัน สร้างประเด็นเรื่องการบังคับให้พูดที่อาจต้องเผชิญกับการตรวจสอบทางรัฐธรรมนูญ
สถานการณ์นี้สะท้อนถึงข้อโต้แย้งก่อนหน้านี้ที่การบริหารงานปฏิเสธการเข้าถึงสำนักข่าวเฉพาะเจาะจงเหนือการตัดสินใจด้านบรรณาธิการ เช่น เมื่อ AP ถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทำเนียบขาว เนื่องจากปฏิเสธที่จะอ้างอิงอ่าวเม็กซิโก ว่าเป็นอ่าวอเมริกา โดยการบังคับใช้กฎใหม่อย่างสม่ำเสมอ Pentagon อาจกำลังพยายามหลีกเลี่ยงภาพลักษณ์ของการกำหนดเป้าหมายองค์กรเฉพาะเจาะจง ในขณะที่บรรลุการควบคุมการส่งข้อความสื่อที่คล้ายกัน
ผลที่ตามมาสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม: ผู้สื่อข่าวที่ไม่ยอมรับนโยบายเป็นลายลักษณ์อักษรจะต้องส่งคืนบัตรผ่านเข้า Pentagon และเคลียร์พื้นที่ทำงานของตน
ผลพวงต่อความรับผิดชอบในระบอบประชาธิปไตย
เหนือกว่าความขัดแย้งในทันที การเผชิญหน้านี้ทำให้เกิดคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับความโปร่งใสของรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ดังที่ Richard Stevenson หัวหน้าสำนักงานวอชิงตันของ Times ระบุ ผู้เสียภาษีจ่ายเงินเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปีให้กับกองทัพสหรัฐฯ และสาธารณชนมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าเงินจำนวนนั้นถูกใช้ไปอย่างไร ผลลัพธ์อาจสร้างแบบอย่างสำหรับการที่ผู้สื่อข่าวจะสามารถเข้าถึงหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ ได้มากน้อยเพียงใด
การเผชิญหน้านี้แสดงถึงการทดสอบความยืดหยุ่นของสถาบัน—ว่าบรรทัดฐานที่จัดตั้งขึ้นของความโปร่งใสของรัฐบาลจะสามารถต้านทานแรงกดดันทางการเมืองในปัจจุบันได้หรือไม่ ด้วยองค์กรข่าวใหญ่ที่ยินดีเสียสละการเข้าถึง แทนที่จะประนีประนอมความเป็นอิสระทางบรรณาธิการของพวกเขา ผลลัพธ์ของการเผชิญหน้านี้อาจกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสื่อไปอีกหลายปีข้างหน้า
อ้างอิง: New York Times, AP, Newsmax among news outlets who say they won't sign new Pentago