ในขณะที่แวดวงเทคโนโลยีกำลังจับตาดูปี 2026 ข่าวลือเกี่ยวกับคู่แข่งระดับกลางในปีถัดไปก็เริ่มปรากฏขึ้นแล้ว มีข่าวลือใหม่เกี่ยวกับซีรีส์ Nothing Phone (4a) ที่เป็นรุ่นต่อจากซีรีส์ Phone (3a) ที่ได้รับความนิยมในด้านราคา ซึ่งให้รายละเอียดสเปคที่เป็นรูปธรรมครั้งแรก ราคาที่คาดการณ์ และแม้กระทั่งรายละเอียดของอุปกรณ์เสริมเสียงรุ่นใหม่ ข้อมูลนี้ทำให้เห็นภาพของตลาดการแข่งขันที่การอัพเกรดประสิทธิภาพอาจมาพร้อมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
規格外洩ชี้ไปที่การอัพเกรดชิปเซ็ตรุ่นใหม่
จากข่าวลึกล่าสุดจากนักพัฒนา MlgmXyysd บน Telegram คาดว่า Nothing Phone (4a) series จะใช้โปรเซสเซอร์ตระกูล Qualcomm Snapdragon 7 รุ่นล่าสุด ข่าวลือชี้ให้เห็นถึงการแบ่งกลยุทธ์ระหว่างรุ่นมาตรฐานและรุ่น Pro โดย Nothing Phone (4a) รุ่นพื้นฐานคาดว่าจะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 7s ซึ่งน่าจะเป็นรุ่น 7s Gen 4 ในขณะที่รุ่น Phone (4a) Pro ที่พรีเมียมกว่าอาจจะได้รับชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 4 มาตรฐาน นี่ถือเป็นก้าวที่ชัดเจนจาก Snapdragon 7s Gen 3 ที่ใช้ในรุ่น Phone (3a) รุ่นปัจจุบัน ซึ่งสัญญาว่าจะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของซีพียู กราฟิกส์ และประสิทธิภาพการใช้พลังงานสำหรับไลน์อัพปี 2026
ข้อมูลข่าวลือเกี่ยวกับสเปกและราคา Nothing Phone (4a) Series
| คุณสมบัติ | Nothing Phone (4a) | Nothing Phone (4a) Pro |
|---|---|---|
| ชิปเซ็ต | Snapdragon 7s Gen 4 (ตามข่าวลือ) | Snapdragon 7 Gen 4 (ตามข่าวลือ) |
| การกำหนดค่า RAM/พื้นที่เก็บข้อมูล | 12GB / 256GB | 12GB / 256GB |
| รองรับ eSIM | ไม่รองรับ (ตามข่าวลือ) | รองรับ (ตามข่าวลือ) |
| ราคาตามข่าวลือ | 475 USD | 540 USD |
| สี | สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีขาว, สีดำ (ตามข่าวลือ) | สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีขาว, สีดำ (ตามข่าวลือ) |
| ช่วงเวลาปล่อยตัว | มีนาคม 2026 (ตามข่าวลือ) | มีนาคม 2026 (ตามข่าวลือ) |
ราคาและความแตกต่างของฟีเจอร์ระหว่างรุ่น
ข่าวลือยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับต้นทุนและชุดฟีเจอร์ที่อาจเป็นไปได้ของอุปกรณ์ใหม่ โดยคอนฟิกูเรชันที่มีแรม 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB มีข่าวลือว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 475 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับ Phone (4a) และ 540 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรุ่น Pro หากข้อมูลนี้ถูกต้อง นั่นบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2025 ซึ่งเปิดตัวในราคา 379 ดอลลาร์สหรัฐ และ 459 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสเปคระดับเดียวกัน นอกจากนี้ ข่าวลือยังระบุว่าเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า เฉพาะรุ่น Phone (4a) Pro เท่านั้นที่จะรองรับฟังก์ชัน eSIM โดยสีของโทรศัพท์มีข่าวว่าจะรวมถึงสีชมพู น้ำเงิน ขาว และดำ
เพื่อนคู่หูเสียงรุ่นใหม่: Nothing Headphone (a)
ควบคู่ไปกับสมาร์ทโฟน มีรายงานว่า Nothing กำลังเตรียมเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Headphone (a) ซึ่งถูกอธิบายว่าเป็นรุ่นที่เปลี่ยนแบรนด์ใหม่จาก Headphone (1) ที่มีอยู่เดิม โดยจุดแตกต่างหลักของรุ่นใหม่นี้คือวัสดุที่ใช้สร้าง Headphone (a) คาดว่าจะใช้ตัวเครื่องพลาสติกทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้มันเป็นทางเข้าสู่ระบบนิเวศเสียงของ Nothing ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น มีข่าวลือว่าจะมีให้เลือกในโทนสีสดใส ได้แก่ ชมพู เหลือง ขาว และดำ ซึ่งสอดคล้องกับภาษาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัท
รายละเอียดข่าวลือ Nothing Headphone (a)
- ดีไซน์: รุ่นปรับโฉมใหม่ของ Headphone (1) ที่ใช้โครงสร้างพลาสติกทั้งหมด
- สี: สีชมพู, สีเหลือง, สีขาว, สีดำ
- กำหนดเปิดตัว: พร้อมกับซีรีส์ Phone (4a) ในเดือนมีนาคม 2026
หน้าต่างการเปิดตัวระดับกลางที่แออัดรออยู่
ข้อมูลที่รั่วไหลออกมาชี้ไปที่การเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2026 สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ ซึ่งจะเป็นการครบรอบหนึ่งปีนับจากการเปิดตัว Phone (3a) เวลานี้จะวางตำแหน่ง Nothing ให้แข่งขันโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ระดับกลางที่คาดการณ์จากผู้ผลิตรายใหญ่รายอื่น ฤดูใบไม้ผลิปี 2026 คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่คึกคัก โดยอาจมีการเปิดตัวรวมถึง iPhone 17e ของ Apple, Pixel 10a ของ Google และ Galaxy A57 ของ Samsung ซึ่งจะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่เข้มข้นในส่วนตลาดสมาร์ทโฟนระดับราคาประหยัด
บริบทการแข่งขัน: เปิดตัวรุ่นระดับกลางที่ข่าวลือว่าจะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิปี 2026 Apple iPhone 17e Google Pixel 10a
- Samsung Galaxy A57
ผลกระทบของต้นทุนสมาร์ทโฟนที่เพิ่มสูงขึ้น
บางทีประเด็นที่สะดุดตาที่สุดจากข่าวลือเหล่านี้คือราคาที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมได้เตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับต้นทุนส่วนประกอบและการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น และราคาที่เป็นข่าวลือสำหรับซีรีส์ Phone (4a) ก็ดูเหมือนจะยืนยันแนวโน้มนี้ การเพิ่มขึ้นประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรุ่นพื้นฐาน หากเป็นจริง แสดงถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบปีต่อปี การพัฒนานี้ทำให้เกิดคำถามว่า Nothing และคู่แข่งจะสร้างสมดุลระหว่างการนำเสนอเทคโนโลยีที่น่าสนใจกับการรักษาความสามารถในการเข้าถึงในภาคส่วนระดับกลางที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไร ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทั้งผู้บริโภคและผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรม
