Apple เปิดตัวร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Saudi Arabia พร้อมรองรับภาษาอาหรับและร้านค้าจริงเปิดในปี 2026

ทีมบรรณาธิการ BigGo
Apple เปิดตัวร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Saudi Arabia พร้อมรองรับภาษาอาหรับและร้านค้าจริงเปิดในปี 2026

Apple ได้ก่อตั้งการดำเนินธุรกิจค้าปลีกโดยตรงใน Saudi Arabia อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งถือเป็นการขยายตัวที่สำคัญเข้าสู่หนึ่งในตลาดเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของ Middle East แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของ Apple จะมีจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตมาก่อน แต่ตอนนี้ลูกค้าสามารถซื้อโดยตรงจากแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเป็นทางการของบริษัทได้เป็นครั้งแรก

ประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่ครบครัน

ร้านค้าออนไลน์ที่เพิ่งเปิดตัวให้ลูกค้าชาว Saudi Arabia เข้าถึงผลิตภัณฑ์ครบชุดของ Apple ผ่านทั้งร้านค้าบนเว็บไซต์และแอป Apple Store เฉพาะ แพลตฟอร์มทั้งสองมีการรองรับภาษาอาหรับอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้ภาษาอาหรับเป็นภาษาแม่จะได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหมาะสม แอปนี้เสนอคำแนะนำผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลตามอุปกรณ์ Apple ที่ลูกค้าใช้อยู่ ทำให้เกิดประสบการณ์การเรียกดูที่เหมาะสมและช่วยให้ผู้ใช้ค้นพบอุปกรณ์เสริมและการอัปเกรดที่เข้ากันได้

คุณสมบัติเด่นของการเปิดตัว Apple ในประเทศ Saudi Arabia :

  • รองรับภาษาอาหรับอย่างสมบูรณ์สำหรับร้านค้าออนไลน์และแอปพลิเคชัน
  • มีผลิตภัณฑ์ Apple ครบทุกรุ่น
  • บริการแกะสลักฟรีแบบสองภาษา (อาหรับ/อังกฤษ) สำหรับ AirPods , Apple Pencil , AirTag
  • ตัวเลือกการสั่งทำตามต้องการสำหรับคอมพิวเตอร์ Mac
  • การปรับแต่ง Apple Watch แบบส่วนบุคคล
  • ซื้อตอนนี้จ่ายทีหลัง: ผ่อน 4 เดือน ดอกเบียย์ 0%
  • มีบริการประกันขยาย AppleCare+
  • รองรับโปรแกรมแลกเปลี่ยนเครื่องเก่า
Apple Store Online มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ครอบคลุมพร้อมการรองรับภาษาอาหรับอย่างเต็มรูปแบบสำหรับลูกค้าใน Saudi Arabia
Apple Store Online มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ครอบคลุมพร้อมการรองรับภาษาอาหรับอย่างเต็มรูปแบบสำหรับลูกค้าใน Saudi Arabia

บริการปรับแต่งและส่วนบุคคล

Apple นำตัวเลือกการปรับแต่งที่เป็นเอกลักษณ์มาให้ลูกค้าชาว Saudi Arabia รวมถึงความสามารถในการกำหนดค่าตามคำสั่งซื้อสำหรับคอมพิวเตอร์ Mac และการผสมผสานเคสและสายนาฬิกา Apple Watch ส่วนบุคคล บริษัทยังเสนอบริการแกะสลักฟรีทั้งภาษาอาหรับและภาษาอังกฤษสำหรับอุปกรณ์เสริมยอดนิยม ได้แก่ AirPods, Apple Pencil และ AirTag บริการแกะสลักสองภาษานี้รองรับข้อความ อิโมจิ และตัวเลข ทำให้ลูกค้าสามารถเพิ่มสัมผัสส่วนตัวให้กับอุปกรณ์ในภาษาที่ต้องการได้

การสนับสนุนลูกค้าและตัวเลือกทางการเงิน

การเปิดตัวครั้งนี้รวมถึงบริการสนับสนุนลูกค้าที่ครอบคลุมผ่านช่องทางแชทและโทรศัพท์ หลังจากได้รับคำสั่งซื้อแล้ว ลูกค้าสามารถติดต่อกับทีมงาน Apple ออนไลน์เพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการตั้งค่าส่วนบุคคล การย้ายข้อมูล iOS และการเปิดใช้งานเซลลูลาร์ Apple ยังแนะนำตัวเลือก Buy Now Pay Later ที่ช่วยให้ลูกค้าแบ่งการชำระเงินเป็นสี่งวดรายเดือนด้วยอัตราดอกเบียร์ศูนย์เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ Apple ระดับพรีเมียมเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น

บริการขยายและโปรแกรมแลกเปลี่ยน

ลูกค้าชาว Saudi Arabia จะสามารถเข้าถึงบริการรับประกันและสนับสนุนขยาย AppleCare+ ซึ่งให้การปกป้องในระดับเดียวกับที่มีในตลาดอื่น ๆ โปรแกรมแลกเปลี่ยนของ Apple ก็กำลังถูกนำมาใช้เช่นกัน ช่วยให้ลูกค้าสามารถแลกเปลี่ยนอุปกรณ์เก่าเพื่อรับเครดิตสำหรับการซื้อใหม่ ส่งเสริมการรีไซเคิลอุปกรณ์และทำให้การอัปเกรดคุ้มค่ามากขึ้น

แผนการขยายร้านค้าจริง

Apple ได้ประกาศแผนการเปิดสถานที่ค้าปลีกจริงใน Saudi Arabia เริ่มต้นในปี 2026 การขยายจะรวมถึงร้านเรือธงที่โดดเด่นใน Diriyah ซึ่งเป็นมรดกโลกของ UNESCO แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการผสานการมีอยู่ของร้านค้าเข้ากับมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ การมีอยู่ทางกายภาพนี้จะเสริมร้านค้าออนไลน์และให้ลูกค้าได้สัมผัสผลิตภัณฑ์โดยตรงและการสนับสนุนทางเทคนิคแบบเห็นหน้า

ไทม์ไลน์และแผนการขยายธุรกิจ:

  • 2025: เปิดตัวร้านค้าออนไลน์และแอปพลิเคชันพร้อมรองรับภาษาอาราบิกอย่างครบถ้วน
  • 2026: เปิดร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม รวมถึงสาขาหลักใน Diriyah UNESCO World Heritage site
  • บริการลูกค้าพร้อมให้บริการผ่านแชทและโทรศัพท์ตั้งแต่วันเปิดตัว

บริบทการขยายตลาดเชิงกลยุทธ์

การเปิดตัวครั้งนี้สอดคล้องกับแนวโน้มที่กว้างขึ้นของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ ที่เพิ่มการลงทุนใน Saudi Arabia แม้จะมีความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนที่ดำเนินอยู่ในภูมิภาค การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Vision 2030 ของประเทศเพื่อกระจายเศรษฐกิจและสร้างตัวเองให้เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีในภูมิภาค บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ของ สหรัฐอเมริกา อื่น ๆ รวมถึง Amazon, Google, Nvidia และ AMD ก็ได้ประกาศความร่วมมือที่สำคัญกับหน่วยงานของ Saudi Arabia เช่นกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของตลาดนี้สำหรับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก